“ใช้ช่างภาพกี่คนในงานแต่งงานถึงจะเรียกว่าพอดี”
“ใช้ช่างภาพกี่คนในงานแต่งงานถึงจะเรียกว่าพอดี??” 🤔🤔นี่เป็นคำถามสุดคลาสสิคที่ว่าที่บ่าวสาวทุกคู่จะต้องเจอ และเป็นอีก หนึ่งคำถามที่ผมโดนถามบ่อยมากๆ วันนี้ผมเลยมาแชร์ประสบการณ์นี้ให้กับทุกคน พร้อมตั้งคำถามให้กับว่าที่บ่าวสาวเพื่อหาคำตอบว่าในวันพิเศษของคุณควรจะมีช่างภาพกี่คน 🙂🙂
.
“เยอะคือดี” > คนส่วนใหญ่มักจะคิดแบบนี้ครับ คือมีช่างภาพเยอะไว้ก่อนดีกว่า เพราะว่าจะได้รูปเยอะ แต่จริงๆ อาจจะไม่ได้ดีเสมอไปนะครับ ผมเชื่อว่าทุกคนต้องเคยไปงานแต่งงานกันมาบ้าง งั้นมาลองจินตนาการดูนะครับว่าในงานแต่งงานที่มีช่างภาพเป็นสิบคนล้อมรอบบ่าวสาวจนแขกแทบจะมองไม่เห็นบ่าวสาวเลยมันจะเวิร์คไหม ดังนั้นผมว่าการเลือกจำนวนช่างภาพให้เหมาะสมกับงานเป็นสิ่งที่สำคัญ
.
เชื่อไหมครับว่าผมถ่ายงานแต่งงานในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษหรือยุโรปส่วนใหญ่แล้วผมถ่ายคนเดียว ซึ่งการทำงานคนเดียวทำให้หลายคนคิดว่า แล้วจะถ่ายทันหรอ? ผมว่ามันขึ้นอยู่กับรูปแบบของการทำงานมากกว่านะครับ ดังนั้นแล้ว สิ่งแรกที่เป็นปัจจัยในการตัดสินใจเลือกจำนวนช่างภาพในงานแต่งงานที่ผมอยากแนะนำ คือ
.
1. รู้ความต้องการของตัวเอง : บ่าวสาวบางคนต้องการความเป็นตัวเองในวันพิเศษ แต่บ่าวสาวบางคนอาจจะต้องการให้ตัวเองรู้สึกพิเศษ ดังนั้นสิ่งนี้ถือเป็นปัจจัยหนึ่งในการเลือกช่างภาพ อย่าพึ่งงงครับ เดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟัง
.
ลองคิดดูนะครับ ถ้าคุณเป็นคนที่มีบุคคลิกอายๆ ไม่ค่อยชอบถ่ายรูปสักเท่าไหร่นัก แต่ในวันแต่งงานของคุณมีช่างภาพประมาณ 10 คน อยู่รอบตัวคุณ คุณคิดว่าคุณจะมีความเป็นตัวเองอยู่ไหม แต่ในมุมกลับกัน บ่าวสาวหลายคนที่อาจจะเป็นคนที่ชอบถ่ายรูปมากๆ การที่หันไปมุมไหนก็มีกล้องคอยถ่ายอยู่ตลอดเวลา อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกมั่นใจก็เป็นได้ ดังนั้น สิ่งแรกที่คุณควรตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าก็คือ คุณต้องการให้ตัวเองรู้สึกแบบไหนในวันแต่งงานขณะท่ีอยู่หน้ากล้อง
.
2. เข้าใจวิธีการทำงานของช่างภาพ : ถึงแม้ว่าคุณจะดูผลงานของช่างภาพจนมั่นใจว่าชอบสไตล์ภาพของคนๆ นั้นแล้ว แต่ก็อย่าตัดสินใจจ้างทันทีนะครับ ผมอยากให้คุณมั่นใจเพิ่มขึ้นอีกนิดด้วยการโทรไปคุยเรื่องวิธีการทำงานของช่างภาพคนนั้นก่อนว่า เขามีการทำงานในลักษณะไหน ใช้ทีมงานกี่คนและเพราะอะไร ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่บ่าวสาวส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยได้ถามช่างภาพนะครับ แต่สิ่งนี้แหละคือสิ่งที่สำคัญมากๆ เพราะว่าช่างภาพบางคนอาจจะใช้ช่างภาพในทีมไม่มาก แต่มีการสลับตำแหน่งหรือเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ได้ภาพที่รู้สึกเหมือนแขกคนหนึ่งในงาน ขณะที่ช่างภาพอีกทีมหนึ่งอาจจะใช้ช่างภาพจำนวนมากแต่เลือกให้ช่างภาพแต่ละคนประจำตำแหน่งไปเลยเพื่อจะได้ไม่ต้องเคลื่อนที่เยอะ
.
ทั้งสองแบบนี้ไม่มีถูกหรือผิดนะครับ เพราะขึ้นอยู่กับรูปแบบการทำงานของแต่ละทีมมากกว่า อยู่ที่คุณมากกว่าครับว่า รูปแบบการทำงานแบบไหนที่คุณอยากให้เกิดขึ้นในงานแต่งงานของคุณ
.
3.จำนวนแขกและความสำคัญของแขกที่มา : จำนวนแขกเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ช่วยทำให้คุณเลือกจำนวนช่างภาพได้นะครับ และนี่คืออีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้คุณบรีฟช่างภาพก่อนงานจะเริ่มได้ ตัวอย่างเช่นงานเช้าซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีจำนวนแขกไม่เยอะเหมือนงานเย็น แต่ทุกคนที่มาล้วนแล้วแต่เป็นแขกคนสำคัญ คุณก็สามารถที่จะบอกช่างภาพได้ว่าในงานเช้านั้นแขกทุกคนสำคัญมากกับคุณ ช่างภาพก็จะเก็บภาพแขกให้ได้ครบ
.
แต่ในงานเย็นซึ่งส่วนมากจะมีแขกมาค่อนข้างเยอะ แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นแขกของคุณพ่อคุณแม่มากกว่าแขกของคุณเอง ซึ่งนั่นทำให้ช่างภาพสามารถ Focus แขกคนที่สำคัญกับคุณได้มากกว่าก็ได้ หรือถ้าคุณคิดว่าคุณพ่อคุณแม่ของคุณอยากที่จะได้ภาพแขกของท่านไว้เพื่อส่งรูปไปขอบคุณแขกที่มา การเพิ่มช่างภาพเพื่อเก็บภาพแขกเพียงอย่างเดียวถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
.
ทั้ง 3 ข้อที่ผมอธิบายมานั้นถือเป็นปัจจัยที่จะทำให้คุณสามารถตัดสินใจในการเลือกจำนวนช่างภาพในวันงานของคุณได้ แต่ท้ายที่สุดแล้วผมไม่สามารถจะบอกได้ว่าจำนวนช่างภาพเท่าไหร่ถึงจะเหมาะกับงานของคุณ
.
ผมหวังว่าทั้ง 3 ข้อที่ผมนำมาแชร์ให้ทุกคนได้อ่านกันในวันนี้จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ทุกคนตัดสินใจเลือกจำนวนช่างภาพที่เหมาะสมได้นะครับ😉😉
#onceinalifetimememories #oatchaiyasith #weddingphotographer #documentaryweddingphotographer #storyteller #weddingphotojournalist